Spreadfirefox Affiliate Button

ทุกวันนี้สำหรับคนที่มีความต้องการสำรอง ข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ของคุณ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเอกสาร รูปภาพ เพลง หรือวิดีโอต่างๆ หรือมีความจำเป็นต้องพกข้อมูลขนาดใหญ่ไปไหนมาไหนตลอดเวลา "ฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพา" (External Hard Drives) ถือได้ว่าเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการใช้งาน

การที่คุณต้องจัดการกับข้อมูลและพกพาติด ตัวไปที่ไหนก็ตาม ถ้าเป็นข้อมูลที่ไม่มากนัก คุณสามารถใช้แผ่น CD หรือ DVD ได้อย่างง่ายดาย หรือว่าถ้าหากคุณต้องการความสะดวกสบายขึ้นมาอีกหน่อย ไม่มีวิธีการยุ่งยากเหมือนกับการใช้แผ่น CD หรือ DVD คุณก็สามารถใช้ประเภท USB Flash Drive ได้

แต่ถ้าหากว่าข้อมูลที่คุณจะจัดการมีขนาด เป็นหน่วย GB ขึ้นมาเมื่อไหร่ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์ภาพยนตร์ ไฟล์วิดีโอ หรือไฟล์รูปถ่ายดิจิตอล ตัวเลือกที่น่าสนใจ คุณก็คงหนีไม่พ้นที่จะต้องใช้ฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพาอย่างแน่นอน เพราะนอกจากที่จะเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้อย่างง่ายแล้ว คุณยังสามารถแบ่งปันข้อมูลให้กับเพื่อนของคุณได้ง่ายอีกด้วย

ข้อดีของฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพาก็คือมีความจุใกล้เคียงกับฮาร์ดไดร์ฟที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ทั่วไป หรือเผลอๆ ความจุของบางรุ่นยังมีเยอะกว่าอีกด้วย และมีการออกแบบให้มีรูปแบบที่ดูดีขึ้น มีขนาดเล็กลงเพื่อให้ง่ายแก่การพกพา และยังเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนอีกด้วย

แต่อย่างไรก็ตาม เจ้าเครื่องนี้ก็พกลำบากกว่าพวก USB Flash Drive ที่มีขนาดเล็กกว่าเยอะมากอีกทั้งฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพานี้เริ่มเป็นอุปกรณ์พื้นฐานสำหรับหลายๆ คนอีกด้วย

ในท้องตลาดฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพา มีจำหน่ายหลายรุ่น หลายขนาด โดยการเลือกซื้อขึ้นอยู่กับความต้องการของตัวคุณเองว่าต้องการแบบไหน เรามีข้อมูลการเลือกซื้อฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพา ที่จะทำให้คุณมีสามารถตัดสินใจซื้อได้ตรงใจคุณ และคุ้มค่ากับเงินที่เสียไปอีกด้วย

การเลือกฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพาให้ตรงใจคุณ

ปัจจัยในการเลือกซื้อฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพาให้ตรงใจ ได้แก่
  1. ขนาดความจุ
    ฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพา ส่วนมากมีความจุมากกว่าฮาร์ดไดร์ฟที่ติดตั้งภายในเครื่องคอมพิวเตอร์มาก โดยความจุที่น้อยที่สุดของเครื่องนี้ประมาณ 1-2 GB เท่านั้น ในขณะที่ความจุมากสุดมีมากกว่า 1 TB เลยทีเดียว แน่นอนว่าเมื่อปริมาณความจุมากย่อมส่งผลต่อราคาที่จะต้องสูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้น คุณควรที่จะเลือกความจุที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ เพื่อเป็นการประหยัดเงินในกระเป๋าของคุณอีกด้วย

  2. ระบบการป้องกันข้อมูล
    การใช้งานอุปกรณ์ไอทีที่เกี่ยวกับการเก็บหรือสำรองข้อมูลในปัจจุบันให้ความสำคัญการเก็บรักษา และป้องกันข้อมูลจากบุคคลอื่น ซึ่งฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพาก็มีเทคโนโลยีที่ช่วยป้องกันการเข้าถึงข้อมูล หรือการบันทึกข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาตจากบุคคลอื่นด้วยเช่นกัน รวมทั้งมีเทคโนโลยีที่ป้องกันการสั่นสะเทือนที่อาจจะทำให้ข้อมูลเสียหาย เนื่องจากการพกพาเคลื่อนย้ายไปตามสถานที่ต่างๆ อีกด้วย

  3. การเชื่อมต่อ
    ฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพาโดยส่วนมากจะเชื่อมต่อผ่านทาง USB 1.1/2.0 หรือ IEEE 1394 400/800 (ที่คนส่วนมากรู้จักกันในชื่อ FireWire) ถ้าคุณต้องการความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูล การเชื่อมต่อแบบ USB 2.0 และ FireWire 800 ถือว่าตอบสนองความต้องการของคุณได้เป็นอย่างดี แต่ถ้าหากว่าคุณต้องการโอนถ่ายข้อมูลในปริมาณที่มากขึ้น ไฟล์ใหญ่ขึ้นเนื่องจากเก็บภาพยนตร์ หรือเก็บข้อมูลระดับ GB ขึ้นไป การใช้งาน USB คงจะไม่ไหวแล้ว ดังนั้นจึงมีเทคโนโลยีใหม่ออกมา คือ external Serial ATA (eSATA) แต่เดิมนั้น SATA ถูกออกแบบมาเพื่อการเชื่อมต่อฮาร์ดดิสก์แบบติดตั้งไว้ภายในตัวเครื่องเท่านั้น แต่ต่อมาได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีจนสามารถใช้ต่อแบบภายนอกได้ซึ่งคาดว่าจะเป็นการเชื่อมต่อพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ในระดับไฮเอ็นด์ ความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลของ eSATA มีมากกว่า USB 2.0 และ FireWire ถึง 6 เท่า โดย USB 2.0 มีความเร็วในการโอนถ่ายข้อมูล 480 Mbps ในขณะที่ FireWire 400 Mbps เท่านั้น ดังนั้นการเชื่อมต่อแบบ eSATA จึงมีความน่าสนใจมากเลยทีเดียว

  4. ขนาดของตัวไดร์ฟ
    ขนาดของตัวไดร์ฟมีขนาดแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับการใช้งาน ซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 3.5 นิ้ว, 2.5 นิ้ว, 1.8 นิ้ว, 1 นิ้ว และ 0.85 นิ้ว ขนาดมาตรฐานคือ 3.5 และ 2.5 นิ้ว ถ้าหากว่ายิ่งมีขนาดเล็กเท่าไหร่ก็จะมีความสะดวกสบายในการพกพามากขึ้นเท่านั้น แต่การทำงานและประสิทธิภาพน้อยลงไปด้วย

  5. ความเร็วรอบ
    ความเร็วรอบมีความสำคัญในการค้นหาข้อมูล ยิ่งมีความเร็วรอบมากเท่าไหร่ การเข้าถึงข้อมูลย่อมรวดเร็วขึ้นตามไปด้วย โดยความเร็วรอบมีหน่วยเป็น Revolutions Per Minute (rpm) ความเร็วรอบมีตั้งแต่ 3,600 rpm ถึง 15,000 rpm ความเร็วรอบที่ใช้ในฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพาส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 7,200 และ 5,400 rpm แต่ถ้าเป็นความเร็วรอบมากๆ ระดับหลักหมื่นโดยส่วนมากจะใช้กับฮาร์ดไดร์ฟแบบติดตั้งภายในตังเครื่องและใช้กับเซิร์ฟเวอร์หรือระดับไฮเอนท์เท่านั้น

  6. หน่วยความจำบัฟเฟอร์
    การใช้หน่วยความจำบัฟเฟอร์หรือหน่วยความจำแคช (Cache) เพื่อเป็นการพักข้อมูลก่อนที่จะแสดงผลออกมา การที่มีหน่วยความจำบัฟเฟอร์เพิ่มมากขึ้น ก็จะมีส่วนช่วยให้การทำงานฮาร์ดไดร์ฟนั้นรวดเร็วขึ้นตามไปด้วย ซึ่งคุณควรจะมองหาหน่วยความจำบัฟเฟอร์ขนาด 8 MB หรือ 16 MB มากกว่า 2 MB

  7. ซอฟต์แวร์
    เครื่องฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพา ปัจจุบันมีซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวกับการสำรอง กู้ข้อมูล หรือระบบป้องกันข้อมูลติดตั้งมาพร้อมกับเครื่องด้วย ซึ่งทำให้คุณสะดวกสบายในการใช้งานเนื่องจากไม่ต้องหาโปรแกรมมาลงเพิ่ม

  8. การรับประกัน
    การที่คุณต้องพกพาเครื่องนี้ไปไหนมาไหนตลอดเวลาอาจจะทำให้เครื่องนี้มีปัญหาได้ง่าย ซึ่งปัญหาไม่ว่าจะเกิดจากการกระแทกแรงๆ หรือจากปัจจัยอื่น ปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อคือคุณต้องดูระยะเวลาในการรับประกัน ระยะเวลาในการส่งเคลมสินค้า โดยคุณอาจจะต้องเลือกระยะในการรับประกันนานหน่อย เพราะถ้าหากเกิดความเสียหายคุณก็มั่นใจได้ว่ามันยังอยู่ในประกันคุณไม่ต้องเสียเงิน (เว้นแต่ว่าความเสียหายอยู่นอกเหนือจากการประกัน แบบนี้ก็ตัวใครตัวมันละกัน) และคุณควรเก็บใบรับประกันหรือสติ๊กเกอร์เก็บรับประกันให้ดี อย่าให้ลอก หรือหลุดหายไป ไม่งั้นแล้ว ทางร้านจะไม่รับประกันเครื่องคุณก็ได้ และที่สำคัญ คุณควรซื้อจากร้านค้าที่มั่นใจได้ เกิดวันดีคืนดีปิดกิจการไปแล้วมันจะเกิดเรื่องยุ่งยากแก่คุณได้
ปัจจัยในการเลือกซื้อยังมีอีกหลายอย่างนอกเหนือจากที่กล่าวข้างบนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระบบคอมพิวเตอร์ที่สามารถ รองรับได้ ซึ่งระบบสามารถใช้ได้ตั้งแต่ Windows98/98SE/ME/XP/Vista และสามารถใช้งานกับเครื่อง Mac ได้อีกด้วย ซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ไม่น่าจะมีปัญหากับผู้ใช้งาน

หรือแม้กระทั่งการออกแบบตัวเครื่อง โดยผู้ผลิตมีการออกแบบเน้นความสวยงาม มีเอกลักษณ์ และขนาดเล็ก เพื่อที่จะทำให้คุณง่ายแก่การพกพามากขึ้น รวมทั้งเรื่องน้ำหนักของตัวเครื่องก็มีส่วนในการตัดสินใจซื้อฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพาอีกด้วย

ราคาของฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งในการตัดสินใจซื้อ ถ้าหากคุณต้องการเครื่องที่มีประสิทธิภาพการทำงานสูงราคาก็จะต้องสูงขึ้นตามไปด้วย อย่างไรเสียก็ดูเงินในกระเป๋าคุณด้วยว่าเพียงพอสำหรับการจ่ายหรือเปล่า

อย่างไรก็ตาม ฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพาไม่จำเป็นต้องเก็บข้อมูลอย่างเดียวเสมอไป แต่บางเครื่องยังมีฟังก์ชันการใช้งานอื่นๆ อีกด้วย เช่น เป็นเครื่องเล่น MP3, ใช้เป็น Card reader สามารถเชื่อมต่อกับโทรทัศน์ได้โดยตรง หรือการใช้งานผ่านระบบเครือข่ายอีกด้วย

การเลือกซื้อฮาร์ดไดร์ฟให้เหมาะกับการใช้งานของคุณเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกซื้อ เพราะมันจะทำให้คุณใช้งานเครื่องได้อย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่า และจากข้อมูลที่ได้กล่าวไปมากมายคงจะช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกตรงใจคุณอย่างแน่นอน

ฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพาแบบไหนตรงใจคุณที่สุด



iPod touch
สำหรับบางคนที่ไม่จำเป็นต้องมีพื้นที่ในการเก็บข้อมูลมากนัก แต่สามารถสนุกเพลิดเพลินไปกับการฟังเพลง ซึ่งคุณสามารถใช้เก็บข้อมูล และเก็บเพลงพร้อมทั้งฟังเพลงไม่ว่าที่ใดก็ได้ เครื่องนี้ถือได้ว่าเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของคุณเลยทีเดียว

iPod Touch ถือได้ว่าเป็นเครื่องที่สามารถฟังเพล งและเก็บข้อมูลได้ โดยมีการควบคุมผ่านจอสัมผัสแบบ Multitouch ขนาด 3.5 นิ้ว มีปุ่มควบคุมแบบ iPod Shuffle นอกจากนี้ มันยังติด WiFi และสามารถเล่นเว็บผ่าน Safari ได้ ซึ่งมีให้เลือก 2 รุ่นตามขนาดความจุคือ 8 GB และ 16 GB

ราคา 8 GB 12,500 บาท, 16 GB 16,700 บาท



Samsung YH-925GS
เครื่องเล่น MP3 ที่สามารถนำมาใช้เป็นฮาร์ดไดร์ฟแบบพก พาได้ เนื่องจากมีหน่วยความจำมากถึง 20 GB ด้วยฮาร์ดไดร์ฟขนาด 1.8 นิ้ว คุณสามารถอัดเพลงได้ประมาณ 5,000 เพลง หรือ 320 ชั่วโมง รองรับไฟล์ได้หลากหลายไม่ว่าจะเป็น Motion JPEG, MP3, WMA และ Audible การแสดงผลหน้าจอสี TFT color LCD 26 ล้านสี มีการเชื่อมต่อผ่าน USB2.0 รับสัญญาณวิทยุ สามารถบันทึกเสียงได้ สำหรับแบตเตอรี่เป็นแบบชาร์ทในตัว เล่นต่อเนื่องได้นาน 9 ชั่วโมง และมีน้ำหนักเบาเพียง 150 กรัมเท่านั้น

ราคา 19,000 บาท


Apple TV
สำหรับเครื่องนี้ถือได้ว่าเป็นคลังภาพและเสียงที่สมบูรณ์แบบ โดยสามารถเก็บได้ทั้งไฟล์รูปภาพ เพลง และภาพยนตร์ ซึ่งแต่เดิมคุณสามารถรับชมข้อมูลต่างๆ ผ่านโปรแกรมไอทูนส์ แต่เครื่องนี้สามารถดูหนัง ฟังเพลง และรูปภาพสวยๆ ของคุณผ่านจอทีวีของคุณได้ แทนที่มองจากคอมพิวเตอร์หรือไอพอดเพียงอย่างเดียว

แอปเปิ้ลทีวีมีความจุให้เลือกที่ 40 GB และ 160 GB ซึ่งในรุ่นความจุ 40 GB นั้น สามารถเก็บไฟล์ภาพยนตร์ได้ถึง 25 เรื่อง หรือไฟล์เพลงถึง 9,000 เพลง และไฟล์รูปภาพได้ถึง 25,000 ไฟล์ นอกจากนี้ยังมีระบบ 720g High-definition video ซึ่งเป็นระบบการส่งข้อมูลแบบไร้สาย (Wireless) และการเชื่อมต่อกับโทรทัศน์สามารถทำได้ผ่านช่องรับสัญญาณด้านหลังของแอปเปิ้ลทีวี ที่เป็น HDMI กับช่องรับสัญญาณที่เป็น Component port ซึ่งมีอยู่ในโทรทัศน์เกือบทุกระบบ อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อกับไอทูนส์บนเครื่องคอมพิวเตอร์ผ่านทาง Built-in WiFi 802.11 อีกด้วย

แต่ถ้าที่บ้านหรือที่ทำงานของคุณไม่ได้มีการติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตไร้สายเอาไว้ ก็สามารถเชื่อมต่อผ่านสาย Lan หรือ USB ได้ โดยการเชื่อมต่อผ่านสาย Lan จะให้ความเร็วในการส่งผ่านข้อมูลที่รวดเร็วกว่าการใช้สาย USB และยังง่ายต่อการเชื่อมต่อกับระบบเครือข่าย

สำหรับแอปเปิ้ลทีวี สามารถใช้งานได้กับโปรแกรมไอทูนส์เวอร์ชั่น 7 ขึ้นไป และเครื่องคอมพิวเตอร์ระบบปฏิบัติการแมค (Mac OS X) หรือกับระบบปฏิบัติการ Windows PC หรือ Windows XP Home/Professional ก็ได้

ราคา 15,301 บาท



Western Digital Media Center 250 GB
ฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพาเครื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวคือต้องการเก็บรูปภาพในขณะเดินทาง ซึ่งมีวิธีการง่ายๆ เพียงใช้หน่วยความจำการ์ดจากกล้องดิจิตอลเสียบเข้าไปยังตัวเครื่องฮาร์ดไดร์ฟ โดยไม่ต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องนี้มีความจุ 250 GB สามารถรองรับการ์ดประเภทต่างๆ ได้ถึง 8 ชนิด มีการเชื่อมต่อผ่าน USB 2.0 และ FireWire หน่วยความจำ Cache 8 MB และความเร็วรอบ 7,200 rpm

ราคา 200 ดอลลาร์สหรัฐ



Buffalo 250GB DriveStation Combo
เครื่องนี้สามารถให้คุณจัดเก็บข้อมูล สำรองไฟล์ข้อมูล และถ่ายโอนข้อมูลของคุณไม่ว่าจะเป็นเพลงโปรด ภาพถ่ายหรือ วิดีโอ ได้อย่างง่ายดาย มีความจุขนาด 250GB ในการเชื่อมต่อมีการเชื่อมต่อได้ง่ายผ่านทาง USB 1.1 และ 2.0 และ Firewire (IEEE 1394) ซึ่งมีการติดตั้งไว้ภายในตัวเครื่องแล้ว สามารถใช้งานได้ในระบบปฏิบัติการ Windows 2000, XP หรือ Mac OS X ซึ่งสามารถติดตั้งได้เองโดยไม่ต้องใช้เซิร์ฟเวอร์ สามารถติดตั้งได้ทั้งแบบแนวตั้งและแนวนอน Hard drive ความเร็วสูง 7200 RPM SATA

ราคา 4,500 บาท



Seagate FreeAgent Pro 750GB
เครื่องนี้มีความจุ 750GB ที่มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่น มีขนาด 10 x 10 x 5 นิ้ว น้ำหนัก 1.5 กิโลกรัม มีรูปลักษณ์ดีไซน์ที่โดดเด่นพร้อมนวัตกรรมใหม่ๆ ตัวเครื่องมีระบบสำรองข้อมูลมาด้วย เมื่อเริ่มใช้งานระบบ Auto Backup จะคอยตรวจสอบว่ามีการสร้างไฟล์หรือโฟลเดอร์ใหม่ๆ หรือไม่ หรือว่ามีข้อมูลอะไรที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปบ้างหรือเปล่า และรองรับการเข้ารหัสข้อมูล

เครื่องนี้มีความเร็วรอบอยู่ที่ 7,200 rpm ขนาดบัฟเฟอร์ 16 MB รองรับการเชื่อมต่อทั้งแบบ USB 2.0 และ FireWire และสามารถรองรับ eSATA ด้วยเช่นกัน แต่คุณอาจจะต้องซื้อสายเคเบิล

ราคา 12,900 บาท



Buffalo 500GB DriveStation External USB 2.0 SATA
เครื่องนี้ให้คุณสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้โดยง่ายเพียงเพียงอุปกรณ์เข้ากับคอมพิวเตอร์ของคุณเพียงเท่านี้คุณก็สามารถ ใช้งานในการจัดเก็บ และสำรองข้อมูลได้แล้ว ที่มีขนาดความจุมากถึง 500GB ซอฟต์แวร์ที่มาพร้อมเครื่องคือ Memeo AutoBackup และ SecureLockWare ที่จะทำให้คุณรู้สึกปลอดภัยได้ว่าข้อมูลของคุณจะไม่ถูกขโมย หรือมีการบันทึกผิดพลาดจากผู้ที่ไม่ได้รับอนุญาต Hard drive ความเร็วสูง 7200 RPM รองรับการเชื่อมต่อแบบ USB 2.0 และ IEEE 1394 รองรับระบบปฏิบัติการ Windows me, 2000, และ XP รวมทั้ง Max OS X อีกด้วย

ราคา 7,900 บาท



Netdisk Mega NDAS
สำหรับเครื่องนี้รองรับการใช้งานผ่านระบบเครือข่ายได้โดยตรง โดยไม่ต้องแก้ไข IP หรือ ต้องใช้ Server ไม่ว่าจะเป็นการแชร์ไฟล์ จัดเก็บข้อมูลพร้อมทั้งการสำรองข้อมูลก็สามารถเชื่อมต่อกับเครือข่ายได้โดยตรง ที่ใช้งานกับฮาร์ดดิสก์ขนาด 3.5 นิ้ว สนับสนุนการเชื่อมต่อแบบ USB 2.0 เครื่องนี้สามารถใช้งานได้ทั้งแนวตั้งและแนวนอน แถมมีพัดลมระบายอากาศพร้อม LED สำหรับการแสดงการทำงานด้านหน้าอีกด้วย พร้อมทั้งใช้ได้กับระบบปฏิบัติการ Windows, Linux และ Mac OS

ราคา ไม่ระบุ



Grand Wise Box 4
เป็นเครื่อง Digital Multimedia Player ที่สามารถทำงานได้เป็น Digital Media Player ที่สามารถดูหนัง ฟังเพลงจากตัวเครื่องได้ สามารถบรรจุเพลงได้มากมายเนื่องจากใช้ฮาร์ดไดร์ฟขนาด 2.5 นิ้ว สามารถเล่นไฟล์หนัง เพลง และรูปถ่าย โดยต่อตรงเข้ากับทีวีได้ อีกทั้งสามารถทำงานได้เป็น Memory Card Reader/Writer สำหรับการนำภาพจากกล้องดิจิตอลเข้าไปเก็บไว้ในตัวเครื่องหรือคอมพิวเตอร์อีกด้วย และสามารถทำงานเป็นฮาร์ดไดร์ฟแบบพกพาโดยมีขนาดความจุตั้งแต่ 20-100 GB เลยทีเดียว

ราคา 40GB 9,900 บาท 60GB 10,900 บาท 80GB 12,900 บาท



Lacie Big disk Extreme with Triple Interface 1TB
เป็นเครื่องที่สามารถเก็บไฟล์ข้อมูล เพลง ภาพ รวมถึงการสำรองข้อมูล ความเร็วรอบในการอ่าน 7200 rpm ระดับ cache 16MB บันทึกข้อมูลได้มากถึง 1TB รองรับการเชื่อมต่อแบบ FireWire 800/400 และ USB 2.0 รองรับระบบปฏิบัติการ Windows และ Mac มีน้ำหนักมากถึง 2.5 กิโลกรัม

ราคา 22,000 บาท

ที่มา : ecommerce-magazine

Powered by ScribeFire.

เขียนโดย Şiłąncē Mőbiuş วันจันทร์ที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2550 0 ความคิดเห็น

20 สุดยอด วิธีแก้ปัญหากวนใจชาว Windows
มาดูวิธีขับไล่ปัญหากวนใจทั้งหลายของ Windows XP และวิธีจัดการให้ PC ของคุณสุขภาพดีกันเถอะ
________________________________________

โอ้สวรรค์! เป็นเรื่องดีจริงๆ ที่ระบบ Windows เป็นอะไรที่ไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเลย ปัญหาพวกระบบค้างและบั๊กต่างๆ ที่มาคอยกวนใจเราชาว XP ก็หาได้ยากยิ่งนัก เอาล่ะ…พอเหอะ! ที่ชาวบ้านเค้าจะเผ่นหนีไปใช้ Linux หรือ OS อื่นๆ กันหมด เพราะพวกเค้าเริ่มทนไม่ได้กับปัญหาเหล่านั้นแล้วล่ะ

จริงๆ แล้วคุณก็พอแก้ปัญหาได้อยู่ใช่มั้ย? คุณมี System Restore ที่ใช้แก้ปัญหาแบบฟันฉับเดียวรักษาทุกโรค หรือถ้าอาการหนักจริงๆ ก็เสกคาถา [F8] ตูมเดียวให้ระบบเลือกบูท Last Known Good Configuration เป็นท่าไม้ตายสุดยอด

เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะสามารถช่วยให้คุณจัดการกับเรื่องยุ่งยากทั้งหลายกับ 20 วิธีแก้ปัญหาชิวๆ ที่แม้ไม่สามารถชุบชีวิต PC ที่ขึ้นสวรรค์ไปแล้วให้กลับมาได้ แต่อย่างน้อยก็ช่วยให้คุณสุขภาพจิตดีขึ้นบ้างล่ะน่า ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรมพังหรือเน็ตเวิร์กทำงานแปลกๆ หรือเมื่อระบบไม่ยอมให้คุณใช้งานใดๆ เรารวบรวมไว้ให้คุณทั้งหมดแล้ว
  1. วิธีใช้งาน CHKDISK แบบเร็ว
    เมื่อแน่ใจว่าฮาร์ดดิสก์เกิดอาการ เพี้ยนๆ ไม่ว่าจะเป็นอาการแปลกๆ ตอนบูทเครื่อง, เปิดโปรแกรมไม่ค่อยขึ้น หรือมีข้อความแปลกๆ ไม่ได้รับเชิญปรากฎขึ้นมา คงต้องใช้ Chkdsk ที่มากับ Windows XP เพื่อสแกนตรวจหาปัญหาใน sector ของฮาร์ดดิสก์และซ่อมมันให้เรียบร้อย แม้ว่าคุณสามารถเปิดโปรแกรมได้จาก Recovery Console แต่ยังมีวิธีที่ง่ายกว่านั้น เพียงคลิกขวาที่ My Computer แล้วเลือก Properties มองหาช่องที่เขียนว่า Tools แล้วคุณจะเห็นปุ่มที่ใช้เรียกมันขึ้นมา หากคุณต้องการสแกนไดรฟ์หลัก คุณจะต้องสั่งรีบูทเครื่องหลังจากเสร็จสิ้นการสแกนด้วย

  2. ส่ง Error Reporting ไม่ได้
    มันเป็นฟังก์ชันที่ดีมากๆ ที่ให้เราๆ สามารถส่งข้อมูลว่าโปรแกรมไหนเสียยังไงไปให้ Microsoft ได้ แต่บางทีฟังก์ชัน Error Reporting ก็เสียซะเองนี่สิ มันเป็นเรื่องที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าโปรแกรมออนไลน์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นเกมหรืออินเตอร์เน็ตบราวเซอร์ ก็มักจะมีปัญหาระบบภายในอยู่บ่อยๆ หากต้องการให้มันหายเป็นปกติ ก็ใส่ซีดีติดตั้ง XP เข้าไปแล้วพิมพ์คำว่า sfc/scannow ตรงหน้าต่าง Run เท่านี้ก็เรียบร้อย

  3. เชื่อมต่อสัญญาณเน็ตเวิร์กไร้สายไม่ได้
    หากคุณไม่สามารถเชื่อมต่อเน็ตเวิร์กไร้สายได้ทั้งๆ ที่การทำงานของ WiFi ก็บอกคุณอยู่โท่งๆ ว่ามันมีสัญญาณเต็มเปี่ยม บางทีปัญหาอาจจะมาจากโปรแกรม Wireless Zero Configuration ของอีตา Microsoft ก็ได้ ให้คุณคลิกขวาที่ My Computer เลือก Manager แล้วขยาย Services and Applications ออกมา ภายใต้ Services หาคำว่า Wireless Zero Configuration แล้วดับเบิ้ลคลิก คุณจะมาโผล่ที่แท็บ General สั่ง Stop เพื่อหยุดการทำงานของมัน รอสักครู่แล้วสั่งเปิดการทำงานของมันใหม่ driver อุปกรณ์ไร้สายน่าจะทำงานถูกต้องแล้ว และคุณก็น่าจะเชื่อมต่อสำเร็จแล้ว

  4. ลืมรหัสผ่าน ทำไงดี?
    หาก คุณทำรหัสผ่านของ User Account หาย รีบูทเข้า Safe Mode เลือก log on user เป็น Administrator ปกติ account นี้จะถูกซ่อนอยู่ (ซึ่งคุณจะได้สิทธิ์และอำนาจเป็นผู้ดูแลระบบ) และหากคุณไม่เคยสร้าง account นี้ตอนติดตั้ง XP ก็กดเข้าไปได้เลย ไม่ต้องใส่รหัสผ่าน จากนั้นเปิด Control Panel แล้วสั่ง reset the User Account passwords เท่านี้ก็เรียบร้อย

  5. ป้องกันการติดตั้ง driver
    หากคุณต้องการเก็บ driver ของอุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานหรืออยู่ในขั้นทดลองให้พ้นจากระบบของ คุณ คุณก็สามารถสั่งให้ Windows XP จัดการปิดบัญชีเรื่องนี้ได้เลย ให้เปิด System Properties แล้วคลิกแท็บ Hardware และเลือก Driver Signing ที่นี่คุณสามารถสั่งปิดกั้น driver ที่ไม่ได้เรื่องทั้งหมด (หรือจะให้มีข้อความขึ้นเตือนก่อนก็ได้) สั่งให้ป้องกันทั้งระบบ หรือไม่อนุญาตให้ผู้ใช้ระบบคนอื่นๆ มาติดตั้ง driver ซี้ซั้วและอาจทำให้คุณตกที่นั่งลำบากได้

  6. สำรองพื้นที่ฮาร์ดดิสก์ไว้ขณะกำลังเขียนแผ่น CD/DVD
    หากคุณสังเกตได้ว่าทุกครั้งที่เขียนแผ่น CD หรือ DVD พื้นที่ฮาร์ดดิสก์จะลดลงไปเรื่อยๆ นั่นหมายความว่าโปรแกรมเขียนแผ่นกำลังใช้พื้นที่ฮาร์ดดิสก์ในการเก็บอิมเมจไฟล์ไว้ตรงไหนสักแห่งในเครื่อง PC ของคุณ ลองกลับไปดูตัวเลือกของโปรแกรมแล้วปิดคำสั่งเล่นซ่อนหาไฟล์อิมเมจนี้ซะ อ้อ! ปกติแล้วมันน่าจะเก็บไฟล์ไว้ที่ My Documents ไม่ก็ Program Files

  7. หลีกเลี่ยงปัญหาตอนบูทเครื่อง
    หากระบบของคุณบูทช้าแบบสุดๆ และคุณก็ไม่ต้องการติดตั้งระบบใหม่ งั้นลองฟังก์ชัน Hibernate แทนการปิดเครื่องดูสิ คุณสามารถเปิดการใช้งานนี้ได้โดย ไปที่ Power Options (ซึ่งอยู่ใน Display Properties ของ Screen Saver) จากนั้นเมื่อคุณคลิก Turn Off Computer ให้กด [Shift] ค้างไว้แล้วเลือก Stand By เพื่อใช้คำสั่ง Hibernate นี้

  8. อยากลบไฟล์งี่เง่าที่ลบยังไงก็ลบไม่ออก
    หากคุณไม่สามารถลบไฟล์ด้วยวิธีธรรมดาๆ แล้ว ให้เปิด Command Prompt แล้วเปลี่ยน path ไปให้ถึงที่ที่ไฟล์เจ้าปัญหานั้นอ ยู่ จากนั้นสั่งปิด explorer.exe โดยใช้โปรแกรม Task Manager เลือกแท็บ Processes กลับไปที่ Command Prompt แล้วพิมพ์ DEL เว้นวรรค ตามด้วยชื่อไฟล์ที่ต้องการลบ New Task เสร็จแล้วก็เปิด Task Manager คลิก Fileàแล้วพิมพ์คำว่า explorer.exe เพื่อให้หน้าจอเดสก์ท็อปกลับมาเป็นอย่างเดิม

  9. ไฟล์ไม่ได้มาตรฐานไสหัวไปให้หมด!!
    อะจ๊าก! ค้างอีกแล้ว…มันเกิดอะไรขึ้น? คุณไม่เพียงแค่อยู่ให้ห่างจาก driver ที่ไม่ได้มาตรฐานอย่างเดียวเท่านั้น ไฟล์ที่ไม่ได้มาตรฐานก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาได้ไม่แพ้กัน เพราะว่าระบบ PC มีการออกแบบที่ดีเยี่ยม (จริงแล้วห่วยสุดๆ ) แบบว่าไฟล์ระบบอาจถูกทับโดยการติดตั้งโปรแกรมหรืออุปกรณ์ต่างๆ หรือไม่ก็อาจถูกอัพเดทจากโปรแกรมหรือ malware ตัวร้ายได้เสมอ ดังนั้นคุณอาจต้องสแกนฮาร์ดดิสก์ของ คุณแม้ไม่อยากทำเลยก็ตาม เพียงคลิก Run แล้วพิมพ์ sigverif โปรแกรม File Signature Verification ก็จะเปิดขึ้นมา ให้คุณคลิก Start เพื่อเริ่มทำงานได้เลย อย่าลืมเตรียมแผ่นติดตั้ง XP ไว้ให้พร้อมด้วยนะ
    “หากระบบของคุณบูทช้า และคุณก็ไม่ต้องการติดตั้งระบบใหม่ ลองฟังก์ชัน Hibernate แทนการปิดเครื่องดูสิ”

  10. ไดรฟ์ CD/DVD หายไปไหนแว้ว!?
    เพราะว่า Windows XP มีเรื่องที่ต้องจดจำเยอะแยะไปหมด ฉะนั้น…บางทีเฮียเค้าเลยเกิดอัลไซเมอร์รับประ ทาน ลืมไดรฟ์ CD/DVD ของคุณไป แม้ว่ามันจะเห็นอยู่ทนโท่ใน Device Manager ก็ตาม ในกรณีนี้ให้คุณเปิด RegEdit แล้วไปที่ HKEY-LOCAL_MACHINE\SYSTEM\CurrentConstrolSet\Control\Class\{4D36E965-E325-11CE-EBC1-08002BE10318} แล้วลบค่าใน UpperFilters กับ LowerFilters ออกไป จากนั้นรีบูทเครื่อง 1 ครั้ง คุณต้องติดตั้งโปรแกรมเขียนแผ่นใหม่ด้วยแหละ…ซวย 2 ชั้นของจริง

  11. ไฟล์/โฟลเดอร์นี้…ฉันจอง
    ถ้าหากคุณไม่สามารถทำอะไรกับไฟล์หรือโฟลเดอร์ที่อยู่ใน Windows XP ได้ เนื่องจากอาจมีใครใช้อยู่ที่ไหนสักแห่ง คุณอาจต้องติดป้ายแสดงความเป็นเจ้าของไฟล์/โฟลเดอร์ไว้ โดยคลิกขวาที่ไฟล์/โฟลเดอร์ที่ต้องการแล้วเลือก Properties จากนั้นเลือก Security, Advance และ Owner ตามลำดับ ตรงรายชื่อให้คุณเลือก username ของคุณ (หรือ Administrator ถ้ามี) เสร็จแล้วเลือก Replace owner on subcontainers and objects

  12. ยกเลิกการทำดัชนีไฟล์ (File Index)
    หากคุณไม่ได้มีความจำเป็นเลิศเหมือนพวกปากหอยปากปู และปกติคุณก็ใช้โปรแกรม Search ในการค้นหาเฉพาะไฟล์เอกสารกับรูปภาพยุคพระเจ้าเหาแค่นั้น การทำดัชนีไฟล์ดูจะเป็นการใช้ทรัพยากรระบบที่มากเกินไปจนทำให้อะไรๆ ช้าลงไป ถ้าอยากจะปิดมัน…ง่ายมาก เพียงเปิด My Computer คลิกขวาที่ไอคอนฮาร์ดดิสก์ เลือก Properties ให้ดูที่แท็บ General แล้วคุณจะเห็นตัวเลือกการทำดัชนีไฟล์ ให้สั่งปิดมันไปเลย…จบ

  13. Firewall ที่น่ารำคาญ
    หาก Firewall ที่ติดตั้งมากับ Windows ทำให้คุณประสาทเสียและคุณก็ไม่รู้จะ ปิดมันจาก control Panel ยังไง (เพราะว่าตัวเลือกที่จะปิด มันเป็นสีเทาอยู่น่ะสิ) ให้คุณเปิดหน้าต่าง Run แล้วพิมพ์ net start SharedAccess ไม่ต้องมีเครื่องหมายคำพูดนะ และกลับกัน…หากคุณต้องการปิดมันก็ให้พิมพ์ net stop SharedAccess

  14. อย่าใช้ Super Prefetch เลยคุณ
    คุณที่เค้าคุยไว้ว่าจะมีฟังก์ชันที่เข้า มาช่วย registry ให้สามารถทำงานได้เร็วฟ้าผ่า ด้วยเทคโนโลยี Super Prefetch ที่มีเฉพาะ Service Pack 2 กับ Windows Vista น่ะ ขี้โม้สุดๆ เลยคุณ เพราะแม้ว่าจะปรับ registry ไปแล้ว ระบบของคุณก็ยังทำงานช้าเป็นเต่าอยู่ดี เว้นแต่คุณจะสั่ง defrag ไฟล์ Prefetch ซะก่อน เพียงเปิดหน้าต่าง Run แล้วพิมพ์ defrag c: -b

  15. Logon ให้เร็วขึ้น
    Autoexec.bat เป็นไฟล์ที่ใช้สั่งให้โปรแกรมทำงานตอนบูทเข้าระบบ Windows แต่ก็ไม่มีความจำเป็นแล้ว เพราะว่า Windows XP ทำงานด้วยขั้นตอนที่ต่างไปจากเดิม อย่างไรก็ตาม ยังมีหลายโปรแกรมที่ยังมีไฟล์นี้อยู่ และบางทีก็อาจทำให้การเข้าระบบเร็วขึ้นก็ได้ งั้นอย่ารอช้า รีบเปิด RegEdit แล้วไปที่ HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows NT\CurrentVersion\Winlogon แล้วสร้างหรือแก้ไขค่าของ ParseAutoexec DWORD ให้เป็น 0 จากนั้นรีบูทเครื่องดู

  16. ปิดเครื่องแล้วค้าง ทำไงดี?
    ถ้าคลิก Shut Down แล้วอีก 20 นาทีต่อมาเครื่องของคุณยังค้างอ ยู่ แถมยังเจอปัญหาว่า Adobe Reader เพี้ยนไปแล้ว ปิดไม่ลงจ้า!! คงน่าหงุดหงิดเหมือนกันนะ แต่ไม่เป็นไร ให้คุณไปจบชีวิตเพี้ยนๆ ของมันที่ RegEdit และเข้าไปเปลี่ยนค่าของ HKEY_USERS\DEFAULT\Control Panel\Desktop\AutoEndTasks ให้เป็น 1 ค่านี้จะทำให้ Windows XP หลับหูหลับตาปิดข้อความแจ้งปัญหาที่จะทำให้ระบบของคุณทำงานช้าลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตทั้งหมด

  17. ปัญหาโปรแกรมไม่เสถียร
    ถ้า อยู่ๆ โปรแกรมที่เคยใช้งานดีๆ เกิดดื้อแพ่ง ระเบิดตัวเองหรือค้างแหง่กๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ อาจเป็นไปได้ว่าไฟล์ .dll ของมันเองอาจทำงานไม่เรียบร้อยตอนที่คุณเลิกใช้โปรแกรมนั้นๆ พอนานเข้า ก็เลยยิ่งไม่เสถียรหนักขึ้นเรื่อยๆ ว่าแล้วก็เปิด RegEdit แล้วไปที่ HKEY_LOCAL_MACHINE\SOFTWARE\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Explorer แล้วสร้างค่า DWORD ที่ชื่อว่า AlwaysUnloadDll ขึ้นมาใหม่ แล้วตั้งค่าให้เป็น 1

  18. ล้างบางข้อมูลตอนติดตั้งโปรแกรม
    เมื่อเวลาติดตั้งโปรแกรมผิดพลาดและคุณไม่สามารถติดตั้งใหม่ได้ (มักมีอะไรบางอย่างผิดปกติจนทำให้เกิดความผิดพลาดในซอฟต์แวร์ Java) ดังนั้นคุณจะต้องเอาไฟล์เน่าๆ ที่ค้างอยู่ในเครื่อง PC ของคุณตอนติดตั้งครั้งแรกออกไปซะก่อน แต่ถ้าจะมานั่งหาเองคงไม่หมู เพราะไฟล์ส่วนใหญ่จะหลบอยู่ตามหลืบต่างๆ ทางที่ดีควรใช้โปรแกรม Windows Installer CleanUp จัดการให้ดีกว่า คุณสามารถดาวน์โหลดโปรแกรมนี้ได้ที่ support.microsoft.com/kb/290301 แล้วใช้มันสแกนหาเศษซากไฟล์ที่เหลืออยู่ติดตั้งเพื่อให้คุณลบมันทิ้งไปเอง

  19. Defragment สะดุด…ทำไงดี?
    ถ้า เกิดโปรแกรม Defragment ที่ติดมากับ Windows ทำงานอืดลงกว่าเมื่อก่อน หรือไม่ยอมทำงานให้คุณเลย อาจเป็นเพราะว่ามี sector ในฮาร์ดดิสก์เสียจนทำให้ระบบหยุดการทำงานก็เป็นได้ ซึ่งโดยปกติแล้ว สาเหตุน่าจะมาจากไฟล์สำรองที่โปรแกรม เว็บบราวเซอร์เก็บไว้ทำ cache เป็นตัวก่อปัญหามากกว่า วิธีง่ายๆ ที่จะเขี่ยไฟล์เหล่านี้ออกไป ก็เพียงแค่ใช้โปรแกรม Chkdsk ก่อนทุกครั้งที่จะใช้โปรแกรม Defragmenter ก็เท่านั้น

  20. ครั้นจะปิดโปรแกรม Outlook มันช่างยากเย็นกว่าที่คุณคิด…
    หากคุณใช้ Outlook 2003 อยู่ ก็คงเห็นไอคอนโปรแกรมอยู่ตรง system tray และมันก็ยังทำงานไปได้เรื่อยๆ แม้ว่าคุณจะสั่งปิดโปรแกรมไปแล้วก็ตาม แบบว่ามันยังตรวจเช็คอีเมลอยู่ แต่ไม่ยอมให้คุณใช้งานมันแล้ว เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหานี้ ให้คุณใช้ Task Manager สั่งจับตายทุกอย่างที่เกี่ยวกับ Outlook ให้หมด จากนั้นค่อยเปิด Outlook ใหม่แล้วคลิก Tools, Options, Other, Advanced Options และเลือก COM Add-ins ตามลำดับ พวกโปรแกรมเสริมที่เห็นนี้คือโปรแกรมยี่ห้ออื่น (เช่น ตัวสแกนไวรัส) และหากโปรแกรมเหล่านี้ยังทำงานอยู่ตอนที่คุณสั่งปิดโปรแกรมไป (แบบว่ายังสแกนอีเมลของคุณอยู่) โปรแกรมนั้นก็จะยังทำงานที่ค้างอยู่ต่อไป ดังนั้นให้คุณยกเลิกการใช้ Add-ins นี้ทีละอันจนกว่าคุณจะเจอว่าโปรแกรมไหนที่สร้างปัญหาให้คุณ
ที่มา http://cit.kmitnb.ac.th/ebook/

Powered by ScribeFire.

เขียนโดย Şiłąncē Mőbiuş 0 ความคิดเห็น

โลกนี้ไม่ได้มีแต่ Microsoft และ Windows นะจะบอกให้

Subscribe here

เวลา ไม่เคยคอยใคร