Spreadfirefox Affiliate Button

ใครที่มีกิ๊ก ยกมือขึ้น ฮ่าๆ ระวังคนข้างๆ ด้วยนะครับ วันนี้จะมาเสนอลูกเล่นนึง ของ Plus! ที่บางท่านอาจจะทราบอยู่แล้ว ผมว่าลูกเล่นนี้ มันทำให้คนที่มีเพื่อนเยอะๆ ใน Contact List อย่าผม! สะดวกขึ้นมากเลยครับ ไม่ต้องคอยดูว่า เค้า online/offline ไปหรือยัง

้อ้อลูกเล่นนี้จำเป็นต้องลง Plus Live ก่อนนะครับ ใครไม่รู้จัก คลิกที่นี่ก่อนเลย

โดยการดึงชื่อ เฉพาะคนที่เราสนใจ มาไว้บนหน้าจอคอมหรือ Desktop ของเราเลย จะได้ทราบว่า กิ๊กเรา แฟนเรา หรือลูกหนี้เรา ออนหรือ ออฟอยู่ไง ใครนึกไม่ออกดูรูปครับ



พอจะเข้าใจแล้วนะครับ ทีนี้เราก็จะสามารถรู้ได้ทันทีไม่ต้องหา ว่าคนนี้ on หรือ off เวลาจะคุยก็ดับเบิ้ลคลิกที่ชื่อได้เลย และเรายังสามารถ ต้งค่าต่างๆ เพื่อให้เราใ้ช้ได้สะดวกขึ้นอีกมากมาย ดังนี้ครับ



สมมติว่า ผมอยากติดตามสถานะ ของน้อง One-Piece ขาประจำเว็บผมนั่นเอง (ของคุณน้อง One-Piece ครับ) ให้ท่านคลิกที่ชื่อ ไปที่เมนู > Messenger Plus! Features> Display on Desktop แค่นี้เองครับ รายชื่อน้อง One-Piece ก็จะกระโดนไปอยู่หน้า Desktop ทันที



นอกจากนี้เรายังสามารถตั้งค่าต่างๆ ได้อีก ให้ท่านคลิกขวาที่ชื่อที่เรานำมาแสดงบน Desktop ครับ จะเห็นเมนูคำสั่งมากมาย ผมจะอธิบาย คร่าวๆ ดังนี้ครับ
  • Lock Position ท่านสามารถล็อกชื่อ ที่อยู่บน Desktop ได้พูดง่ายๆ คือ ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้นั่นเอง
  • Always On Top ชื่อจะถูกแสดงอยู่บนสุดเสมอ ไม่ว่าเราจะเปิดโปรแกรมอะไรขึ้นมา แนะนำให้ใช้ครับ
  • Remove From Desktop ยกเลิกการใช้ คือลบออกจากหน้าจอ แต่ไม่ได้หมายถึงลบจาก Contact List นะครับสบายใจได้
  • Open Chat Log... เปิด Chat Log
  • Open Chat Windows... เปิดหน้าต่างสนทนา
  • Contact Information... ดูรายละเอียดข้อมูลของนายคนนี้
  • Set Nickname... ตั้งชื่อได้ครับ จะเปลี่ยนเฉพาะชื่อที่อยู่บน Desktop (แต่ที่ หน้าต่าง Contact List จะไม่เปลี่ยน)
  • Display Setting... สามารถปรับ สีตัวอักษร สีพื้น หรือขอบได้

การตั้งชื่อ Contact's Nickname


เปลี่ยนชื่อตัวอักษร สีพื้น สีขอบ และยังสามารถตั้งค่า Transparency ได้อีกด้วย

พอปรับแล้วก็จะสวยงามเด่นชัดขึ้นครับ แบบนี้



และนี่คือ อีกลูกเล่นที่ผมใช้บ่อยครับ จบ ^^!

ที่มา ThaiMSN.net

เขียนโดย Şiłąncē Mőbiuş วันอาทิตย์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2551 0 ความคิดเห็น

รหัส ErrorCode และ วิธีแก้ปัญหาเบื้องต้น (สำหรับเวอร์ชั่น 8)

ErrorCode : 800b001
สาเหตุ: เกิดจาก MSN หาไฟล์พวก .dll บางตัวไม่เจอ ทำให้ไม่สามารถ sign in ได้
วิธีแก้:
ErrorCode : 81000362
สาเหตุ: เกิดจากที่ตัว IE เปิด Work OffLine ไว้คับ
วิธีแก้:
  • ตรวจเช็คการตั้งค่าใน IE และ MSN
  • เช็คว่า IE OffLine ไว้หรือป่าว
  • เรียก Internet Explorer ขึ้นมาคับ
  • กดที่เมนู File แล้วดูที่ Work Offline ว่ามีติ๊กไว้หรือป่าวถ้ามีให้เอาออก
  • ตรวจเช็คการตั้งค่า Proxy ใน IE
  • เรียก Internet Explorer ขึ้นมาคับ
  • กดที่เมนู Tools --> Internet Options
  • คลิ๊กที่แท็บ Connections กดปุ่ม LAN Settings คับ
  • เอาตัวติ๊กทั้งหมดออกคับ
  • กด OK 2 ที
ErrorCode : 80048820
สาเหตุ: เกิดจากวันที่ของเครื่องไม่ถูกต้อง
วิธีแก้:
ErrorCode : 80072ee7 , 80048848
สาเหตุ: เกิดจากปัญหาของ Firewall หรือการติดต่อออกอินเตอร์เน็ต มีปัญหา
วิธีแก้:
  • ตรวจเช็ค Internet ว่า Connect อยู่หรือป่าว...
  • ปิด Firewall ทั้งของ Windows , Router และโปรแกรม Antivirus ต่างๆ
ErrorCode : 80072eff , 80070193 , 800701f7
สาเหตุ: เป็นปัญหาจาก .NET Messenger Service มีปัญหา ซึ่งอาจจะเกิดจากตัว .Net server
วิธีแก้:
  • ตรวจเช็ค Internet ว่า Connect อยู่หรือป่าว...
  • ปิด Firewall ทั้งของ Windows , Router และโปรแกรม Antivirus ต่างๆ
  • เช็ค .Net Messenger Service server อาจมีปัญหา ลองคลิ๊กที่นี่เพื่อตรวจสอบ http://messenger.msn.com/Status.aspx ว่า Server รันอยู่หรือป่าว
ErrorCode : 80072efd
สาเหตุ: ปัญหานี้เกิดจาก ในส่วนของ windows update
วิธีแก้:
  • ตรวจเช็ค Internet ว่า Connect อยู่หรือป่าว...
  • ปิด Firewall ทั้งของ Windows , Router และโปรแกรม Antivirus ต่างๆ
  • Register DLL files และตั้งวันที่ใหม่ โดยใช้ไฟล์นี้คับ http://www.thaimess.com/downloads/msnallreg.bat
  • Internet Explorer ต้องสนับสนุน การเข้ารหัสแบบ 128 bit ให้ตรวจสอบ โดยดูได้ด้วยการคลิกเมนู Help > About ใน IE (ถ้าไม่ใช่แนะนำให้ลง IE6 ใหม่อีกรอบคับ)
ErrorCode : 80072f0d
สาเหตุ: เกิดจากที่ส่วนที่เกี่ยวข้องกับ security ของ MSN ไม่ทำงาน
วิธีแก้:
  • ตรวจเช็ค Internet ว่า Connect อยู่หรือป่าว...
  • ปิด Firewall ทั้งของ Windows , Router และโปรแกรม Antivirus ต่างๆ
  • Register DLL files และตั้งวันที่ใหม่ โดยใช้ไฟล์นี้คับ http://www.thaimess.com/downloads/msnallreg.bat
  • เปิด Internet Explorer ไปที่เมนู Options -> Internet Options.. -> Advancd แล้วดูที่หัวข้อ use SSL 2.0 และ use SSL 3.0 ให้ติ๊กถูกทั้ง 2 อัน (ถ้าทำข้างบนยังไม่ได้ให้ทำด้านล่างต่อ)
  • ไปที่ Start -> Run พิมพ์ regsvr32 initpki.dll กด Enter แล้วรอครับอาจจะนานหน่อยเป็น 10 นาที...
ErrorCode : 80070190 , 80072745
สาเหตุ: เกิดจากปัญหาการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
วิธีแก้:
  • ตรวจเช็ค Internet ว่า Connect อยู่หรือป่าว...
  • ปิด Firewall ทั้งของ Windows , Router และโปรแกรม Antivirus ต่างๆ
  • Register DLL files และตั้งวันที่ใหม่ โดยใช้ไฟล์นี้คับ http://www.thaimess.com/downloads/msnallreg.bat
  • เช็ค .Net Messenger Service server อาจมีปัญหา ลองคลิ๊กที่นี่เพื่อตรวจสอบ http://messenger.msn.com/Status.aspx ว่า Server รันอยู่หรือป่าว
ErrorCode : 80070301
สาเหตุ: เกิดจากปัญหา ของ .NET Messenger Service
วิธีแก้:
  • ตรวจเช็ค Internet ว่า Connect อยู่หรือป่าว...
  • ปิด Firewall ทั้งของ Windows , Router และโปรแกรม Antivirus ต่างๆ
  • เช็ค .Net Messenger Service server อาจมีปัญหา ลองคลิ๊กที่นี่เพื่อตรวจสอบ http://messenger.msn.com/Status.aspx ว่า Server รันอยู่หรือป่าว
  • ให้ตรวจสอบ user name และ password ให้แน่ใจด้วยการกรอกใหม่อีกครั้งระวังตัวพิมพ์เล็กและใหญ่ด้วยนะคับ
  • ไปที่ Start -> Run พิมพ์ %appdata%microsoft กด Enter และลบโฟล์เดอร์ชื่อ MSN Messenger (Emo และ DP ที่เพิ่มเข้าไปจะหายไปหมด)
ErrorCode : 81000303 หรือ " Microsoft .NET Passport has made your account temporarily unavailable to help prevent other users from guessing or obtaining your password."
สาเหตุ: เกิดจากปัญหา ของ .NET Messenger Service หรือ รหัสผ่านผิด
วิธีแก้:
  • ตรวจเช็ค Internet ว่า Connect อยู่หรือป่าว...
  • ปิด Firewall ทั้งของ Windows , Router และโปรแกรม Antivirus ต่างๆ
  • Register DLL files และตั้งวันที่ใหม่ โดยใช้ไฟล์นี้คับ http://www.thaimess.com/downloads/msnallreg.bat
  • เช็ค .Net Messenger Service server อาจมีปัญหา ลองคลิ๊กที่นี่เพื่อตรวจสอบ http://messenger.msn.com/Status.aspx ว่า Server รันอยู่หรือป่าว
  • ให้ตรวจสอบ user name และ password ให้แน่ใจด้วยการกรอกใหม่อีกครั้งระวังตัวพิมพ์เล็กและใหญ่ด้วยนะคับ
ErrorCode : 81000306
สาเหตุ: เกิดจากปัญหา ของ .NET Messenger Service หรือ การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต
วิธีแก้:
  • ตรวจเช็ค Internet ว่า Connect อยู่หรือป่าว...
  • ปิด Firewall ทั้งของ Windows , Router และโปรแกรม Antivirus ต่างๆ
  • เช็ค .Net Messenger Service server อาจมีปัญหา ลองคลิ๊กที่นี่เพื่อตรวจสอบ http://messenger.msn.com/Status.aspx ว่า Server รันอยู่หรือป่าว
  • อาจถูกบล็อคการใช้งานจากผู้ดูแลระบบ ลองติดต่อ admin คับ
ErrorCode : 81000314
สาเหตุ: ไฟล์ dll บางไฟล์ของ MSN ยังไม่ได้ทำการ Register
วิธีแก้:
ErrorCode : 80004005
สาเหตุ: มีข้อมูลค้างอยู่ในระบบ
วิธีแก้:
  • ให้เข้าไปที่ ToolS > Internet Options ใน Internet Explorer นะครับ
  • ด้านบนให้เลือกไปที่ Content ครับ แล้ว กด Clear SSL State ทิ้งไป
  • ให้ไปที่ Start > Run แล้วพิมพ์ว่า "%userprofile%\Local Settings\Application Data\Microsoft\Windows Live Contacts" แล้วกด Enter
ที่มา thaimsn.net

เขียนโดย Şiłąncē Mőbiuş 0 ความคิดเห็น

SPAM

ใน ปัจจุบันการติดต่อสื่อสารทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ห รืออีเมล์เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งในระดับ องค์กรเพื่อติดต่อทางธุรกิจ หรือการติดต่อสื่อสารส่วนตัว ซึ่งอีเมล์แอดเดรสของเราก็เปรียบเสมือนการที่อยู่ทาง ไปรษณีย์นั่นเอง แต่จะแตกต่างกันก็คืออีเมล์แอดเดรสจะถูกส่งไปกับอีเม ล์ที่เรารับ,ส่ง, ส่งต่อ(forward) ก็หมายถึงทุกครั้งที่เรารับ, ส่ง หรือ ส่งต่ออีเมล์จะทำให้คนที่อยู่ในกลุ่มผู้รับหรือผู้ที ่รับอีเมล์ต่อจะรู้อีเมล์แอดเดรสของเราอย่างง่ายดาย หมายถึงโอกาสที่กลุ่มผู้สร้าง SPAM จะสามารถรู้อีเมล์แอดเดรสของเราและส่ง SPAM อีเมล์มาให้เราได้อย่างไม่ยากเลย

SPAM คืออะไร?
SPAM จริงๆแล้วก็ไม่ได้เป็นคำย่อมาจากคำใดๆ และก็ไม่เคยมีความหมายในภาษาอังกฤษมาก่อน เพียงแต่เป็นคำแสลง ที่ใช้ในการเรียกอีเมล์ที่ส่งมาเพือมีจุดประสงค์ในกา รโฆษณาขายสินค้า, ประชาสัมพันธ์, บริจาค, ขอความช่วยเหลือ หรืออื่นๆ ซึ่งสร้างความรำคาญในกับผู้ใช้อีเมล์หากได้รับอีเมล์ ประเภทนี้มาเกินไป

SPAM เกิดขึ้นได้อย่างไร
ก็อย่างที่เรารู้กันว่าการส่งอีเมล์เป็นการสื่อสารที ่เสียค่าใช่จ่ายน้อยและสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคไ ด้จำนวนมาก พวกสร้าง SPAM ก็คือพวกที่ต้องการเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคให้ได้มากที ่สุดเพื่อจุดประสงค์ในการ โฆษณาขายสินค้า, ประชาสัมพันธ์ ทางธุรกิจของตน จึงใช้วิธีการให้ได้มาซึ่งอีเมล์ แอดเดรสของกลุ่มผู้บ ริโภคที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งอาจเป็นได้จากหลายกรณี เช่น การที่เราส่งต่ออีเมล์ต่างๆ, การใช้อีเมล์แอดเดรสในการสมัครสมาชิกของกลุ่มข่าว( newsgroup) หรือ สมัครสมาชิกของwebsite ต่างๆ เป็นต้น

วิธีการป้องกัน
จะเห็นได้ว่า SPAM เกิดจากการที่พวกที่สร้าง SPAM รู้อีเมล์แอดเดรสของเรา ดังนั้นการป้องกันที่สาเหตุที่ดีที่สุด คือการที่ป้องกันไม่ให้คนอื่นที่ไม่จำเป็นหรือไม่เกี ่ยวข้องในติดต่อรู้อีเมล์แอดเดรสของเรา
แต่ถ้าเราไม่สามารถป้องกันได้ที่สาเหตุตั้งแต่แรก และเราได้เคยได้รับ SPAM อีเมล์แล้ว เราก็สามารถการป้องกันได้ที่ปลายเหตุ โดยใช้ความสามารถของอีเมล์ไคลเอ็นท์ เช่น Microsoft Outlook ในการกรอง SPAM อีเมล์ หรือ/และร่วมกับความสามารถของอีเมล์เซอร์เวอร์ เช่น Microsoft Exchange หรือ ซอร์ฟแวร์ anti-spam เพิ่มเติม ตามความเหมาะสม โดยทั่วไปการป้องกัน SPAM

สามารถทำได้ดังนี้
  1. ใช้ Outlook ในการกรองอีเมล์ SPAM ถ้าคุณใช้ Outlook 2003 ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณอยู่แล้ว คุณจะเห็นได้ว่ามี folder ที่เรียกว่า Junk E-Mail. ซึ่งใน Folder นี้ จะมีกลไกในการกรองอีเมล์ที่ไม่ต้องการออกไปจาก Inbox ซึ่งตัวกรองจะสามารถกำหนดได้หลากหลายรูปแบบ รวมทั้งเวลาที่อีเมล์ถูกส่งมา(ซึ่งปกติอีเมล์ SPAM จากแหล่งเดิมๆมักถูกตั้ง script ให้ส่งมาเวลาเดียวกันในแต่ละวัน) ตัวอย่างการทำงานของตัวกรองอีเมล์ของ Junk E-mail folder แสดงได้ดังนี้

    คุณสามารถกำหนดกลุ่ม "Safe Sender List" สำหรับกลุ่มคนที่คุณติดต่ออยู่เป็นประจำ(ที่อยู่นอกเ หนือจากคนที่อยู่ใน Outlook contact ของคุณ) ทำให้อีเมล์จากคนเหล่านั้นจะไม่ถูก ส่งไปยัง Junk E-mail folder เพราะว่าเมื่อ Outlook ได้รับอีเมล์จากคนที่อยู่ใน Outlook contact จะส่งไปที่ Inbox ทันที ดังนั้นควรจะหมั่นอัปเดท Outlook contact สม่ำเสมอ เพื่ออำนวยความสะดวกในการค้นหา

    อีเมล์แอดเดรสของผู้ที่เราติดต่อด้วยและนอกจากนี้ยัง มั่นใจได้ว่าอีเมล์จากพวกเขาเหล่านั้นจะไม่หลุดไปอยู่ใน Junk E-mail folder เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการกรองอีเมล์ SPAM อีกด้วย

    นอกจากนี้คุณสามารถกำหนด Outlook ให้สามารถรับอีเมล์จาก "Safe Sender List" เข้าไปที่ Inbox ที่เหลือไปที่ Junk E-mail folder ก็ได้ หรือในทางกลับกันคุณสามารถกำหนด "Blocked

    Senders List" ใน Outlook เพื่อให้ Outlook จัดการนำอีเมล์ที่ได้รับจากผู้ส่ง ที่อยู่ในรายชื่อนี ้ไปใน Junk E-mail folder ทันที หากคุณใช้ Microsoft Exchange เป็นอีเมล์เซอร์เวอร์ Outlook จะไม่นำอีเมล์ที่ได้จากภายในองค์กรเดียวกันไปใส่ไว้ใน Junk E-mail Folder เป็นอันขาด

    โดยทั่วไป, ตัวกรองอีเมล์ของ Junk E-mail folder จะถูกติดตั้งโดยใช้ความเข้มงวดต่ำที่สุด ซึ่งเมื่อพบอีเมล์ต้องสงสัยว่าอาจะเป็นอีเมล์ SPAM ก็จะย้ายอีเมล์นั้นไปที่ Junk E-mail folder

    ซึ่งผู้ใช้สามารถเปิดดูและ ลบอกด้วยตนเองอีกครัง หากคุณยังไม่ได้ใช้ Outlook 2003 แต่ใช้ Outlook version ก่อนหรือ Microsoft Outlook Express ก็สามารถแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดังนั้น

    กำหนดชื่อผู้ส่งและทั้งโดเมน(เช่น @spam.com ) ที่ต้องสงสัยว่าจะเป็น SPAMใน "junk e-mail list"สร้างกฎที่จะทำให้ Outlook รู้จักอีเมล์ SPAM เช่นให้ใส่ flag หรือลบอีเมล์นั้นทิ้งเมื่อเจอ คำที่กำหนดเช่น spam, donation เป็นต้น อยู่ใน subject หรือเนื้อหาของอีเมล์

    นอกจากนี้คุณยังนำกฎเหล่านี้มาใช้เพื่อกำหนดสีของอีเ มล์ที่ต้องสงสัยเพื่อที่จะสามารถแยกออกมาได้อย่างเด่นชัด แทนที่จะลบมันไปอัตโนมัติก็ได้ หากต้องการเรียนรู้วิธีการ กำหนดชื่อผู้ส่งและทั้งโดเมนที่ต้อง สงสัยว่าจะเป็น SPAMใน "junk e-mail list" หรือวิธีการสร้างกฏ สามารถทำได้โดยกดปุ่ม F1 ใน Outlook 2002, Outlook 200 หรือ Outlook express

  2. หลีกเลี่ยงการตอบอีเมล์ SPAM เพราะการตอบอีเมล์ SPAM ทำให้พวกผู้สร้าง SPAM รู้ว่าคุณยังใช้อีเมล์แอดเดรสและเมล์บ๊อกซ์นี้อยู่ ทำให้พวกผู้สร้าง SPAM จะส่งอีเมล์ SPAM มาอีก ทางที่ดีที่สุดคือลบอีเมล์ SPAM ทิ้งเมื่อคุณได้รับมัน

  3. ไม่ควรใช้อีเมล์แอดเดรสที่ใช้ในองค์กร ในการลงทะเบียนใดๆ บนอินเตอร์เนต ในบางครั้งคุณอาจต้องการลงทะเบียน mailing list, news group , การดาวน์โหลด freeware หรือ shareware, การสมัครสมาชิกใดๆบนอินเตอร์เนต หรือการซื่อของทางอินเตอร์เนต คุณไม่ควรจะใช้อีเมล์แอดเดรสที่ใช้ในองค์กรในการลงทะเบียนเหล่านี้ เพราะจะทำให้อีเมล์แอดเดรสของคุณหลุดรอดไปยังพวกสร้า งอีเมล์ SPAM ได้ ข้อแนะนำคือ ให้สร้างอีเมล์แอดเดรสในฟรีเมล์เช่น hotmail ไว้อีกหนึ่งอีเมล์แอดเดรส เพื่อใช้ในการลงทะเบียนหรือซื้อของทางอินเตอร์เนตแทนการใช้อีเมล์แ อดเดรสหลักที่ใช้ในองค์กร

  4. ถ้าคุณเป็นผู้ดูแลระบบคุณอาจจะต้องกำหนดให้ผู้ใช้เคร ือข่ายของคุณใช้กฎการป้องกันอีเมล์ SPAM

  5. หากคุณมี web site เป็นของตัวเอง ไม่ควรใส่อีเมล์แอดเดรสหลักที่คุณใช้ในองค์กรลงบน web site

  6. หากต้องใช้อีเมล์แอดเดรสในการลงทะเบียน website ใดๆให้อ่าน privacy policy ให้ละเอียด สำหรับ website ที่ต้องการให้คุณใช้อีเมล์แอดเดรสในการลงทะเบียน มักมี privacy policy ให้คุณอ่านและเลือกตอบ เช่น คุณต้องการเปิดเผยข้อมูลและอีเมล์แอดเดรสของคุณแก่ผู ้ที่อยู่ในกลุ่มผู้ใช้ของ website หรือไม่ ?, อีเมล์ของคุณต้องการให้เก็บเป็นความลับหรือไม่ ? เป็นต้น ดังนั้นคุณจะต้องอ่านให้ละเอียดและเลือกตอบให้เหมาะสม

  7. ลบข้อมูลของคุณจาก profile ต่างๆที่อาจค้นเจอได้โดยทางอินเตอร์เนต ข้อนี้อาจทำได้ยากในทางปฎิบัติ แต่จากการสำรวจอย่างไม่เป็นทางการของผู้เขียนเอกสาร Crabby's top 10 spam-fighting tips พบว่าเมื่อทำการลบ profile ที่เราไปลงทะเบียนไว้หรือแสดงอีเมล์แอดเดรสของเราเอา ไว้ ไม่ว่าจะเป็น Internet directory, กลุ่มข่าว หรือ discussion board พบว่าจำนวนอีเมล์ SPAM ลดลง

  8. ไม่ควรส่งต่ออีเมล์ประเภท chain e-mail หรือ forward mailซึ่งปัจจุบันมี chain e-mail หลายรูปแบบ เช่นการบริจาคเงิน , บริจาคเลือด, การได้รับรางวัล ต่างๆ หรือ forward e-mail เช่นรูปภาพ, ข้อความ, ข่าว เป็นต้น หากต้องการส่งต่ออีเมล์ประเภทนี้ ก็ควรจะลบรายชื่อของผู้ที่ได้รับอีเมล์ก่อนหน้านี้ที่จะปรากฎอยู่ เมื่อคุณกดปุ่ม Forward ทั้งนี้เป็นช่วยการป้องกันผู้ที่อยู่ในรายชื่อของผู้ที่ได้รับอีเมล์ก่อนหน้านี้ แต่อย่าลืมว่าผู้ที่ ได้รับอีเมล์ต่อจากคุณอาจจะส่งต่อไปให้เพือนๆของเขา ซึ่งคุณก็มีโอกาสเสี่ยงในการที่พวกสร้างอีเมล์ SPAM จะรู้อีเมล์แอดเดรสของคุณอยู่ดี
ที่มา Fw Mail

เขียนโดย Şiłąncē Mőbiuş 0 ความคิดเห็น

โลกนี้ไม่ได้มีแต่ Microsoft และ Windows นะจะบอกให้

Subscribe here

เวลา ไม่เคยคอยใคร