มาแล้วครับ กับเหตุผลแย่ๆ ของเหล่าพนักงานทางด้าน IT ทั้งหลายที่บอกว่าเจ้า iPhone นี่มันไม่ได้เหมาะกับการใช้งานแบบ IT เอาซะเลย ทั้งๆ ที่เป็นอุปกรณ์ไฮเทคล้ำสมัยซะขนาดนี้ เอาเป็นว่าบทความนี้เป็นการบ่งบอกอย่างชัดเจนของ iPhone ที่ไม่เหมาะกับการนำมาใช้งานจริงๆ จังๆ หรือนำมาทำงานทางด้านธุรกิจ โดยเฉพาะทาง IT แต่แน่นอนว่าคงจะเหมาะกับผู้ใช้งานทั่วๆ ไปซะมากกว่า ที่จะเอามาใช้ให้เป็นเรื่องเป็นราว หรือให้มาลดค่าใช้จ่ายหรือประหยัดเวลาการทำงานในองค์กร
สำหรับบทความนี้เป็นเพียงสาเหตุของกลุ่มคนทำงาน IT ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อจะว่า iPhone ไม่ดีอย่างไร แต่เพียงแต่บอกว่าไม่เหมาะกับการทำงานหรือไม่รองรับการทำงานแบบ ไหนซะมากกว่า ซึ่งบางข้อ เราอาจจะใช้กันในชีวิตประจำวัน แต่ iPhone ไม่สามารถทำได้ แต่ก็มีอีกหลายๆเหตุผลที่ iPhone สามารถตอบสนองการทำงานของเราได้ เอาล่ะ เรามาดูกันดีกว่าว่า ชาว IT ทั้งหลายที่เค้า บอกว่า 10 สาเหตุที่ไม่นำ iPhone มาใช้งานเป็นเพราะอะไร
- iPhone ไม่รองรับการเข้ารหัสของข้อมูล ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่าในวงการ หรือธุรกิจขนาดใหญ่ที่เรียกกันว่า เอนเตอร์ไพรส์ ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของข้อมูลมาก ซึ่ง iPhone เองไม่สามารถจะนำไฟล์ต่างๆ มาทำการเข้ารหัสได้ รวมถึงการจัดการของ admin ผู้ดูแลระบบ ก็ไม่สามารถที่จะนำระบบการจัดการดูแลกับรหัสผ่านส่วนบุคคลมาใช้กับคนในองค์กรได้ ทำให้การดูแลนั้นยุ่งยากมากขึ้น และไม่รองรับระบบเดิมที่ใช้งานกันอยู่ ซึ่งรหัสผ่านนั้นขึ้นอยู่กับผู้ใช้งานหรือคนในองค์กรผู้ใช้ iPhone เอง
- iPhone ไม่รองรับการทำงานระบบ "Push" email หรือ การซิงค์ Calendar พุชเมล ถือว่าเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในองค์กรหลายๆ องค์กรในปัจจุบัน ปัจจุบันอุปกรณ์ที่รองรับพุชเมลนั้นมีมากมาย แต่ iPhone ไม่สามารถจะรองรับระบบพุชได้ ทำให้การพก iPhone เมื่อนำมาใช้กับระบบขององค์กรนั้นก็จะได้เพียงเสียงเชียร์แกมอิจฉากับ เพื่อนร่วมงาน ถึงความใหม่ สด น่าใช้งาน เท่ห์มากๆ แต่สุดท้ายแล้ว อีเมลของบริษัทที่สำคัญๆ ก็ไม่สามารถเช็คได้ รวมถึงการซิงค์ข้อมูลของตารางนัดหมาย ในปฎิธิน คอนแทค หรือรายชื่อที่อยู่คอมพิวเตอร์ นอกจากนี้เอง iPhone ก็ยังไม่รองรับการซิงค์ผ่าน Wireless อีกด้วย ต้องใช้สาย USB sync เท่านั้น
- iPhone ไม่รองรับการทำงานของ โปรแกรมค่ายอื่นๆ โดยที่มีการรับประกัน การรับประกันถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญกับอุปกรณ์ที่มีราคาค่าตัวเป็นหมื่น เช่นกัน แต่ว่า iPhone จะหลุดจากการรับประกันในทันที หากพบว่าเครื่อง iPhone ที่เราๆ ท่านๆ ใช้งานกันอยู่นี้ มีการลงโปรแกรมเพิ่มเติมที่เรียกว่า Third Party หรืออีกนัยนึงก็คือเป็นโปรแกรมที่ไม่ได้รับการรับรองจากทาง Apple หรือเป็นโปรแกรมที่ทาง Apple เป็นผู้พัฒนาขึ้นมา นั่นก็หมายความว่า โปรแกรมที่เราใช้งานเพิ่มเติมกันอยู่ในทุกวันนี้ เป็นโปรแกรมของปาร์ตี้ที่สามกันทั้งนั้นเลยล่ะครับ แต่ว่า Apple ก็สัญญาว่าจะออก SDK มาให้ผู้พัฒนาโปรแกรมต่างๆ ให้รองรับการใช้งานของ iPhone เช่นกัน ดังนั้นธุรกิจทางด้านซอฟท์แวร์ ของ iPhone จะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย ถ้าทาง Apple ไม่เปิดโอกาสให้ และถึงมีโปรแกรมอื่นๆ ใช้งานกันแต่ ประกันของ iPhone ก็หลุดทันที
- iPhone ไม่รองรับการทำรีโมตหรือล็อคการทำงาน ในที่นี้หากเป็นในฝ่ายไอทีก็คงจะหมายถึงการที่รีโมตเข้ามาที่เครื่อง iPhone เพื่อทำการล็อคหรือเช็คข้อมูลต่างๆ ของเครื่องได้ และยังไม่มีโปรแกรมที่จะมาจัดการในเรื่องนี้
- iPhone ช้าไปแล้วสำหรับคีย์บอร์ดแบบปุ่มจริงๆ(Hardware keyboard) ซึ่ง iPhone คงไม่ได้อยากจะมีอยู่แล้ว แต่คนใช้งานโดยเฉพาะทางแถบยุโรปหรืออเมริกา ปุ่มกดหรือคีย์บอร์ดที่ติดมากับเครื่องด้วย คงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า และยิ่งเมื่อเทียบการป้อนข้อมูลหรือใส่ข้อมูลต่างๆผ่านทาง virtual keyboardไม่ว่าจะเป็นการส่ง อีเมล หรือจดเอกสาร ก็แน่นอนว่าช้ากว่าการป้อนข้อมูลด้วยคีย์บอร์ด (hardware keyvoard) แบบติดมากับเครื่องอยู่แล้ว
- iPhone ไม่รองรับการทำงานข้ามโอเปอร์เรเตอร์ แน่นอนอยู่แล้วว่า iPhone มีระบบล็อคสำหรับใช้งานในประเทศต่างๆ ที่ผูกติดกับโอเปอร์เรเตอร์หรือที่เค้าเรียกกันว่า carrier นี่เอง นอกจากนี้ยังมีติดสัญญาการใช้งานกับโอเปอร์เรเตอร์นั้นๆเป็นปีๆ อีกด้วย เมื่อมีการล็อคแล้วทำให้การซื้อเครื่อง และนำไปใช้งานในต่างประเทศกัน ทำให้ไม่สามารถใช้งานได้ จึงเป็นที่มาที่ไปของการปลดล็อค iPhone และ Apple ก็ไม่นิ่งดูดาย ออก patch firmware มาแก้ไขช่องโหว่ที่เหล่าแฮ็คเกอร์หาเจออยู่ตลอด กลับกลายเป็นเรื่องและกระแสที่ทุกๆ คนต่างๆ เฝ้ารอ
- iPhone ไม่รองรับคนจน (ราคาแพงมาก) iPhone ออกจะไฮเทคซะขนาดนี้ ขืนมาขายราคาไม่กี่พันคงโดนดูถูกแย่เลย ก็เลยมีราคาซะสูงลิ่วเลย จะสังเกตุเห็นได้ในช่วงแรกๆ ที่ออกมาราคาแพงมาก จนกระทั่งมีการประกาศลดราคาออกมา ทำให้คนที่ซื่อมาใช้งานกันก่อนน้ำตาร่วงกันเป็นทิวแถว แต่แน่นอนว่าราคาที่เราได้ซื้อมาใช้งานกันอยู่ทุกวันนี้เป็นราคาติดสัญญา แต่ถ้าหากเป็นราคาตัวเครื่องจริงๆ แล้วล่ะรับรองว่าเห็นราคาแล้วอาจจะหนาวเลยก็ได้
- iPhone ยังเป็นยุคแรกเท่านั้น แน่นอนว่าคงไม่มีอุปกรณ์อะไรออกมาแล้วไม่มีข้อบกพร่องเลย ซึ่งเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว และ iPhone เองก็ต้องเรียกว่าเป็นหน้าใหม่ในตลาดมือถือหรือโมบายล์ ซึ่งยังมีจุดอ่อนอีกมากมายให้พัฒนาและปรับปรุงในยุคต่อๆไป ตัวอย่างเช่น ไม่สามารถจะทำการแอคทีฟโดยใช้เวลาสั้นๆ แบตเตอรี่ยังอยู่ได้ไม่นานเท่าไหร่ คุณภาพเสียงก็ไม่ได้ดีกว่าอุปกรณ์โมบายล์รุ่นอื่นๆ และตอนนี้ยังรองรับที่ 2.5G อยู่เท่านั้น ซึ่งแน่นอนว่าตามข่าวแล้วอนาคตของ iPhone คงจะมีเวอร์ชั่น 3G ออกมาในไม่ช้า
- iPhone ไม่รองรับการเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบถอดเปลี่ยนได้เอง เป็นอีกหนึ่งประเด็นสำคัญสำหรับการใช้งาน iPhone หากไม่มีพลังงานหลงเหลืออยู่ แล้วเราจะทำยังไงกันดี ซึ่งตรงส่วนนี้เองทำให้การใช้งานต้องขาดช่วงไป หรือถ้าจะเปลี่ยนก็ยากลำบากไม่น้อยเลย
- iPhone ไม่มีการรับรองว่าเหมาะสมกับธุรกิจใดๆ สำหรับส่วนนี้คงมีผลสำหรับธุรกิจขนาดใหญ่ๆ ที่ iPhone เองไม่รองรับหรือไม่เหมาะกับการทำงานระดับนี้เลย และไม่มีโซลูชั่นทีจะนำมาใช้งานในธุรกิตต่างๆ และผู้ใช้งาน iPhone เองก็คงรู้ดีว่า iPhone ไม่ได้เกิดมาเพื่อ Business
ที่มา PDAMobiz.com
Powered by ScribeFire.
0 ความคิดเห็น